แชร์

บทที่ 258 


ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-18 17:00:01
ฉินเย่อยากรู้เรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงเงียบเพื่อฟัง

เมื่อโม่ไป๋พูดจบ เขาก็ขมวดคิ้ว "แล้วคนร้ายล่ะ?"

"จับได้แล้ว"

"ใคร?" ฉินเย่ไม่เข้าใจ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่มีศัตรูที่ไหน ใครจะทำร้ายเธอในเวลาแบบนี้?

พอได้ยินเขาถามว่าใครคือคนร้าย โม่ไป๋กลับเงียบไป

เมื่อเห็นแบบนั้น ฉินเย่ก็ขมวดคิ้ว "โม่ไป๋?"

พอได้ยิน โม่ไป๋ก็เงยหน้าขึ้น และพูดอย่างครุ่นคิด "นายอยากรู้จริงๆเหรอ?"

คำถามนี้ทำให้ฉินเย่งงขึ้นไปอีก

แม้ว่าเสิ่นหยินอู้จะดูเหมือนไม่เป็นอะไรในตอนนี้ แต่การลักพาตัวเป็นเรื่องร้ายแรง และคนที่คิดร้ายต่อเธอ เขาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?

โม่ไป๋ใส่แว่นตากลับเข้าไป และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "คนที่ลักพาตัวเธอ อาจทำให้นายประหลาดใจ นายต้องเตรียมใจรับมือกับเรื่องนี้"

เมื่อได้ยินคำว่า "รับมือ" ฉินเย่ก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

และแล้วโดยไม่ต้องรอให้เขาถามต่อ โม่ไป๋ก็พูดขึ้นมาว่า "เป็นคนของฉูฉู่"

เมื่อได้ยินแบบนั้น สายตาของฉินเย่เข้มขึ้นเล็กน้อย

"ถ้าอยากรู้ชื่อ คนของฉันส่งมาแล้ว นายดูเองเถอะ"

โม่ไป๋ยื่นโทรศัพท์ให้ฉินเย่

ฉินเย่รับโทรศัพท์มาดูรูปในนั้นทันที และจำได้ว่าเป็นคนที่เคยทะเลาะกับเสิ่นหยินอู้ใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 259 


    ความคิดของฉินเย่ยุ่งเหยิงไปหมด
ตั้งแต่ตอนเด็กๆ เขาก็รู้สึกว่าโม่ไป๋แปลกๆ ชอบทำตัวใกล้ชิดกับเสิ่นหยินอู้ตลอด ชอบลูบหัวเธอและเรียกเธอว่า "ยัยเด็กน้อย"
แต่โม่ไป๋มักจะบอกว่า เสิ่นหยินอู้เป็นแค่ยัยเด็กน้อยที่ยังไม่โต
ดังนั้น ฉินเย่จึงคิดมาตลอดว่า เขามองเธอเป็นน้องสาว
แม้ว่าเขาจะคิดแบบนั้น แต่ลึก ๆ ในใจของฉินเย่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
ความรู้สึกไม่สบายใจนี้หายไปหลังจากที่โม่ไป๋ไปต่างประเทศและขาดการติดต่อไป
ไม่นึกเลยว่าวันนี้...... โม่ไป๋จะกล้ายอมรับ และยอมรับออกมาอย่างรวดเร็วอีกด้วย"แปลกใจเหรอ?" โม่ไป๋หัวเราะเบา ๆ "ฉันไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนตั้งแต่เด็กเหรอว่าฉันชอบเธอ? ฉันคิดว่านายรู้มาตลอดซะอีก"
ฉินเย่ไม่พูดอะไร ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น"ดูเหมือนนายจะเพิ่งรู้ แต่รู้ตอนนี้รู้ก็ไม่สาย"พอนึกอะไรขึ้นมาได้ โม่ไป๋ก็พูดขึ้น "แล้วนายจะทำยังไงกับเจียงฉูฉู่?""อะไรนะ?" ฉินเย่คิดถึงแต่เรื่องที่โม่ไป๋ชอบเสิ่นหยินอู้ จนไม่ทันได้คิดถึงเรื่องอื่น
โม่ไป๋พูดอย่างอ้อมค้อม"ฉันได้ยินมาว่านายออกมาจากโรงพยาบาลมากลางคันเพราะมีคนส่งข้อความบอกว่าเจียงฉูฉู่หายตัวไป?"ทั้งสองเป็นคนฉลาด โม่ไป๋พูดอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-18
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 260

    "ไม่ใช่ว่าไม่ให้คุณสนใจ แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว โกรธไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ค่อยๆคิดหาทางแก้กันไปดีกว่า""ค่อยๆคิดหรอ? เรื่องมันขนาดนี้แล้วคุณยังจะค่อยๆคิดอีก? ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปจัดการลูกเองเลยดีมั้ย? ฉันไม่เอาแล้ว"พ่อของฉินเย่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา"คุณก็รู้ว่าผมเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ลูกก็ด้วย แต่ถ้าคุณเป็นลูก คุณจะทำยังไง? ได้ยินว่าคนที่เคยช่วยชีวิตหายไปทั้งคน คุณจะนั่งรอในห้องผ่าตัดเฉย ๆ หรอ?"
คุณแม่ฉินเงียบไป"อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ คุณจะให้เขาเลือกยังไง?""ก็ไม่ใช่ว่าไม่ให้เขาไปตามหาหรอก แต่จำเป็นต้องไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ? เสิ่นหยินอู้ก็เหมือนกัน......โชคดีที่โม่ไป๋ไปเจอเข้า ไม่อย่างนั้นเสิ่นหยินอู้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แล้วการที่ลูกต้องลำบากใจจะมีประโยชน์อะไร?""นั่นสิ โชคดีที่มีโม่ไป๋ คุณอย่าไปโทษฉินเย่อีกเลย ลูกเองก็คงรู้สึกแย่เหมือนกัน"
"รู้สึกแย่ก็ดี ให้เขารู้สึกแย่ไปเลย ดีกว่ามารู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดตอนที่สายไปแล้ว"
แม้จะพูดแบบนั้น แต่เมื่อนึกถึงท่าทางของฉินเย่ที่เดินจากไปเงียบ ๆ หลังจากที่โดนเธอตบหน้าไปหนึ่งที คุณแม่ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้เขาคงรู้สึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-18
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 261

    เมื่อเห็นเขา เจียงฉูฉู่ก็สะดุ้งตกใจ จากนั้นก็แสดงความดีใจแล้วลุกจากเตียงเพื่อเดินไปหาฉินเย่ “เย่ ทำไมจู่ๆถึงมาที่นี่ล่ะ? อาการของคุณย่าเป็นยังไงบ้าง? การผ่าตัดประสบความสำเร็จดีไหม?” อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเดินตรงหน้าฉินเย่ เธอกลับพบว่าใบหน้าของเขาบูดบึ้งและมีสายตาที่เย็นชา เมื่อนึกถึงเรื่องของซูเชี่ยวกับต้วนจื่อเหย่ เจียงฉูฉู่ก็รู้สึกผิด แต่เธอไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมาแม้แต่น้อย เธอไม่สามารถตื่นตูมได้ ในเวลานี้ เธอต้องใจเย็นกว่านี้ สามารถปล่อยให้ฉินเย่เห็นในสิ่งที่เธอเป็นกังวลได้โดยเด็ดขาด เสียงของฉินเย่เย็นชา “คุณย่าไม่เป็นไร คุณล่ะ?” “อะไรนะ?” หัวใจของเจียงฉูฉู่เต้นผิดจังหวะ เธอคิดว่าเธอได้ยินผิดไป เมื่อกี้ที่ฉินเย่ถามคือเธอเหรอ? “เพื่อนของคุณล่ะ?” ฉินเย่กวาดสายตามองไปรอบๆห้องผู้ป่วย “รู้ไหมว่าพวกเขาไปไหนกันหมด?” “ไม่แน่ใจ” เจียงฉูฉู่ส่ายหัวและกัดริมฝีปากล่างเบาๆ “ก่อนหน้านี้ฉันออกไปข้างนอกมา พวกเธอคงไปตามหาฉันกันหมดน่ะ” "งั้นเหรอ?" เจียงฉูฉู่ไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาต้องการที่จะพูดอะไร เธอคิดว่าเธอถูกจับได้ แต่ฉินเย่ไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากสองคำนั้นและยังคงนิ่งเงียบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 262

    ดังนั้นเธอจึงได้ให้ซูเชี่ยวอยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งที่ซูเชี่ยวจะมีประโยชน์ขึ้นมาจริงๆ แล้วก็ต้วนจื่อเหย่ ในเมื่อเขาชอบเธอมาก ไปทนทุกข์แทนเธอสักหน่อย เขาคงจะเต็มใจสินะ? “ไม่เข้าใจเหรอ?” ดวงตาของฉินเย่เฉี่ยวคมและมืดมน นิ้วมือเย็นๆของเขาบีบคางของเธอไว้ราวกับงูกำลังรัดเหยื่อ “ฉูฉู่ คุณเคยช่วยชีวิตผมไว้ ผมเลยเชื่อใจคุณมาโดยตลอด แล้วก็มองคุณเป็นคนที่สำคัญมาก แต่ถึงแบบนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะโกหกผมได้ตามใจคุณ” เขาออกแรงเล็กน้อยที่มือของเขา เจียงฉูฉู่รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจน ในขณะนี้ นอกเหนือจากความเย็นจากนิ้วของเขาแล้ว เจียงฉูฉู่ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นที่ลึกล้ำและรุนแรงที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างชัดเจน เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เจียงฉูฉู่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าฉินเย่จะทำแบบนี้กับเธอ เขาเชื่อใจตัวเธอมาตลอดไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้? เมื่อหัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวด น้ำตาอันร้อนรุ่มก็ไหลออกมาจากดวงตาของเจียงฉูฉู่ ในเวลาไม่ถึงห้าวินาที เจียงฉูฉู่ก็ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กขี้แย “เย่ ฉันไม่เข้าใจ นายกำลังพูดอะไรอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 263

    มันหมายความว่ายังไง? ยังไม่ได้ตรวจ? นั่นเท่ากับว่าเธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? การที่จะไม่ตรวจสอบ ก็หมายความว่าเธอจะต้องไม่เป็นอะไรเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ถ้าเธอแท้งลูก มันก็ต้องมีเลือดไหลออกมาแน่นอน และสถานการณ์จะเลวร้ายขึ้นมาก "ตรวจไปแล้ว" อย่างไรก็ตาม เสียงของฉินเย่ทำให้เจียงฉูฉู่กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง เจียงฉูฉู่รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ตรวจสอบไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นอะไร ถ้างั้นก็หมายความว่า... ตอนนี้ฉินเย่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของเธอแล้วงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้น...เขากับเสิ่นหยินอู้คงคืนดีกันแล้ว และรู้ว่าเธอลบข้อความของเขาไปงั้นเหรอ? ถ้าถูกจับได้ เขาคงจะ... เจียงฉูฉู่เริ่มรู้สึกเย็นวาบที่หลังของเธอ ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง ฉินเย่ไม่ปล่อยอารมณ์ใดๆบนใบหน้าของเธอให้เล็ดลอดไปได้ เขาตระหนักได้ว่าท่าทีของเจียงฉูฉู่ดูผิดปกติมากหลังจากที่เขาบอกว่าเขาตรวจไปแล้ว ดวงตาที่เฉี่ยวคมของเขาหรี่ลงด้วยความไม่ไว้วางใจ “ทำไมล่ะ? ที่เธอไม่ได้ตรวจ คุณเป็นห่วงมากเลยเหรอ?” หลังจากได้ยิน เจียงฉูฉู่ก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง เธอเปิดริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว “แน่นอนว่าต้องเป็นห่วงอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 264

    "ใช่" ฉินเย่พูดอย่างใจเย็น "มันเป็นเวลาที่คุณย่าเข้าห้องผ่าตัดจริงๆ และคุณก็รู้ดี คุณสามารถใช้ประโยชน์ในเวลานี้เพื่อปิดบังในสิ่งที่คุณทำได้" เมื่อได้ยิน รอยยิ้มของเจียงฉูฉู่ก็ซีดลงในทันที ร่างกายที่ผอมบางของเธอก็ยืนสั่นอยู่ที่เดิมราวกับจะล้มลงมา ดูเหมือนต้นวิลโลว์อันอ่อนแอที่พร้อมจะล้มลงไปตามสายลม “ที่แท้ นายก็ได้ตัดสินฉันอยู่ในใจไปตั้งนานแล้ว นายไม่ไว้ใจฉันเลย ฉินเย่ ทำไมนายถึงไม่เชื่อฉันล่ะ? เพียงเพราะครั้งที่แล้วฉันจงใจทำร้ายตัวเองเพื่อรักษาเกียรติของตัวเอง นายก็เลยคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงประเภทที่จะคิดชั่วทำชั่วอะไรก็ได้งั้นหรอ?” ฉินเย่หรี่ตาของเขาลง “งั้น ท้ายที่สุดคุณก็ยอมรับแล้วว่าคุณตั้งใจทำให้ตัวเองบาดเจ็บสินะ?” เจียงฉูฉู่ตัวสั่น “ครั้งก่อนฉันยอมรับไปแล้วไม่ใช่หรอ? มันเป็นสิ่งที่ฉันทำ ฉันก็ยอมรับไปแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ฉันทำ ทำไมฉันต้องยอมรับด้วย? เรารู้จักกันมาตั้งหลายปีแล้ว เพื่อรักษาเกียรติของฉัน ฉันไม่เคยทำร้ายคนอื่น ทำฉันตัวของฉันเอง ฉันถึงขั้นเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยนาย หยินอู้ก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของนาย เธอถึงขั้นยอมแต่งงานปลอมๆกับนายเพื่อดูแลคุณย่า เพื่อให้คุณย่าย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-19
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 265

    ณ สถานีตำรวจ “ปล่อยฉันออกไปนะ ฉันไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดกับเขา เรื่องทั้งหมดน่ะ เขาเป็นคนที่วางแผนคนเดียว พวกคุณยัดเยียดความผิดให้คนที่บริสุทธิ์อยู่นะ” ซูเชี่ยวพยายามดิ้นรนและตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่เธอถูกจับได้จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว เธอคิดว่าหลังจากสอบสวนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาอาจจะปล่อยเธอออกไป แต่เธอคิดผิด ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาจนถึงตอนนี้ พวกเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอออกไปเลย ไม่เพียงเท่านั้น ต้วนจื่อเหย่ที่อยู่ข้างๆมีท่าทีเหมือนว่าได้ยอมรับชะตากรรมไปแล้ว เขาไม่ได้ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะขัดขืนหรือไม่ แต่เขายังยอมรับอีกว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับเธอ “ขอถามอีกครั้ง คุณได้สมรู้ร่วมคิดในการก่อคดีลักพาตัวกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคุณที่ชื่อซูเชี่ยวหรือเปล่า?” ต้วนจื่อเหย่พยักหน้า "ครับ" “นอกจากเธอล่ะ? ยังมีใครที่เกี่ยวข้องอีกไหม?” เมื่อได้ยินคำถามนี้ ชื่อของเจียงฉูฉู่ก็แวบขึ้นมาในหัวของซูเชี่ยวโดยไม่รู้ตัว แต่ก่อนที่เธอจะได้โต้ตอบ ต้วนจื่อเหย่ที่อยู่ข้างๆก็ได้ปฏิเสธไปแล้ว “ไม่มีครับ มีแค่เราสองคน” หลังจากได้ยิน ซูเชี่ยวก็หันไปมองเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 266

    คำพูดนี้ฟังดูหวานแหววมาก ทำเอาพยาบาลรู้สึกอิจฉาเสิ่นหยินอู้ขึ้นมาทันทีที่แท้ยังไม่เป็นแฟนกัน ก็ดีต่อคนอื่นเขาเพียงนี้แล้ว แถมยังอ่อนโยนมากด้วย น้ำเสียงตอนอธิบายก็อ่อนนุ่ม ซ้ำยังขอบคุณที่เธออวยพรด้วยทำไมบนโลกนี้ถึงได้มีคนอ่อนโยนขนาดนี้เนี่ย?พยาบาลกำลังคิดเหม่อลอยอยู่ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกคนผลักเปิดออกฉินเย่ที่รูปร่างสูงยาวเดินเข้ามา บนตัวเขายังเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยือกอีกด้วย ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเย็นชาถึงขีดสุดทันทีที่เข้าไปในห้องผู้ป่วย สายตาของเขาก็ตกอยู่ที่ร่างกายของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยทันทีหลังจากที่กวาดมองไปรอบหนึ่งถึงจะเปลี่ยนไปมองที่โม่ไป๋หลังจากนั้น เขาก็เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ฉันมารับเธอกลับบ้าน”บ้าน?เมื่อได้ยินคำคำนี้แล้ว พยาบาลก็ตกตะลึงในใจถึงกับใช้คำว่าบ้านด้วยกันแล้วเหรอเนี่ย หรือว่าสองคนนี้ถึงจะเป็นคู่จริงคู่แท้?เผชิญกับคำพูดตรงไปตรงมาของฉินเย่แล้ว โม่ไป๋เองก็ไม่โกรธ เพียงแค่กล่าวอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิมว่า “นายจะพาเธอกลับไปได้ แต่ต้องรอให้เธอตื่นก่อน”ฉินเย่ปั้นหน้าเขียวก่อนที่ยังเข้ามา เขาแอบได้ยินบทสนทนาระหว่างโม่ไป๋กับพยาบาลแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 855

    จากคำอธิบายของเสิ่นหยินอู้ เด็กน้อยทั้งสองเชื่อว่าตอนนี้โม่ไป๋กำลังป่วยอยู่ และจะดีขึ้นในอนาคต จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาจะยังคงเป็นลุงโม่ไป๋ของพวกเขา หลังจากได้รู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยทั้งสองมีความสุขมาก ในเวลานี้ฉินเย่เข้ามาพอดี ทั้งสองจึงเข้าไปเกาะแกะเขา แน่นอนว่าเด็กน้อยทั้งสองยังคงเรียกเขาว่าลุงเย่มู่ เสิ่นซือเหนียนน่ะไม่เท่าไร แต่เสิ่นเหมิงเหมิงกลับไม่คิดอะไรเลย เธอถึงกับเอื้อมมือไปทางฉินเย่เพื่อที่จะให้เขาอุ้ม ฉินเย่ไม่ได้คิดอะไร เมื่อเห็นว่าเธอต้องการให้เขาอุ้ม เขาก็คุกเข่าลงไปหาเธอ เสิ่นหยินอู้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไป “เหมิงเหมิง ลุงเย่มู่ยังบาดเจ็บอยู่” เพียงประโยคเดียวมันก็ทำให้เหมิงเหมิงหยุดการกระทำของเธอลง และมองไปที่ฉินเย่อย่างว่างเปล่า จากนั้นจึงรีบดึงมือของเธอกลับมา จู่ๆเด็กสาวตัวน้อยก็หยุดพูด และถึงกับถอยหลังไปสองก้าวเพื่อเลี่ยงไม่ให้ฉินเย่แตะต้องเธอได้ การกระทำของเธอทำให้ฉินเย่ตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "มันเป็นแค่แผลเล็กๆน้อยๆเอง อีกอย่าง เธอยังตัวเล็กขนาดนี้ คงไม่ทำให้แผลของผมแย่ลงหรอกมั้ง?" เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 854

    หลังจากได้ยินเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็พูดเสริมในทันที: "ใช่ครับ คุณหนูเสิ่น ประธานฉินพูดถูก การไม่มีข่าวอะไรเลยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด สบายใจเถอะครับ เราจะตรวจสอบต่อไป ถ้ามีโอกาสช่วยเขาออกมา เราก็จะทำอย่างเต็มที่แน่นอน” แม้ว่าพวกเขาจะพยายามปลอบใจเธออย่างเต็มที่ แต่อารมณ์ของเสิ่นหยินอู้ก็ไม่ดีขึ้นเลย เธอเอนตัวพิงไปกับหน้าต่างและมองไปในที่ไกลๆด้วยความสงบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเรื่องถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ได้ ในตอนแรกทุกคนต่างก็ยังใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองอยู่เลยแท้ๆ แต่จู่ๆเรื่องก็กลับร้ายแรงขึ้นมาเช่นนี้“หม่ามี๊ เป็นอะไรไปหรอคะ?” เสียงของเด็กน้อยทั้งสองดังมาจากด้านหลัง ดึงเสิ่นหยินอู้ให้กลับมามีสติอีกครั้ง เมื่อเธอได้สติ เธอก็เห็นเด็กน้อยสองคนมองเธอด้วยความเป็นห่วง “เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน”พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปหาเธอพร้อมๆกันและกอดเธอไว้ “หม่ามี๊คะ ช่วงนี้หม่ามี๊ดูไม่แฮปปี้เลยนะคะ” ใช่สิ เธอออกมาแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไม่มีความสุขล่ะ อาจเป็นเพราะเรื่องราวยังไม่ได้คลี่คลายลงอย่างสมบูรณ์ แต่ต่อหน้าลูกๆทั้งสอง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถแสดงออกมาให้ชัดเจนเกินไปได้ ดังนั้นเ

DMCA.com Protection Status